ติดต่อเรา

Email:icothai@gmail.com

Tel0819511100

           ^ กดเบอร์โทรข้างบนเพื่อติดต่อได้เลยคะ 

Line : 0819511100

Office Hours

  • Monday - Friday 
  • 8.30 A.M. to 5.00 P.M.
  • Saturday - Sunday Closed
 ติดต่อสอบถาม

ชื่อ :
นามสกุล :
บัตรประชาชนเลขที่ :
ที่อยู่ :
อำเภอ :
จังหวัด :
รหัสไปรษณีย์ :
มือถือ :
อีเมล์ :
Line ID :
Facebook ID / Name :
เรื่องที่สอบถาม :
 
 

 
 
 
 
 
LINE ID : 0819511100




คดีขอแยกกันอยู่ชั่วคราว
 


 

การเกิดความรุนแรงในครอบครัว สามีภริยาไม่สามารถจะอยู่ด้วยกันได้อย่างปกติสุข จนถึงขนาดเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 

ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ฝ่ายที่ได้รับอันตรายหรือถูกกระทำ มีสิทธิร้องต่อศาลให้สั่งอนุญาตให้แยกกันอยู่ต่างหากชั่วคราวได้ และศาลอาจมีคำสั่งให้มีการชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูให้ด้วยก็ได้ 

การร้องขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้แยกกันอยู่เป็นการชั่วคราว มี 3 กรณี ดังนี้ 
1 การอยู่ร่วมกันจะเป็นอันตรายแก่จิตใจอย่างมากของสามีหรือภริยา 
2 การอยู่ร่วมกันจะเป็นอันตรายแก่กายอย่างมากของสามีหรือภริยา 
3 การอยู่ร่วมกันจะเป็นการทำลายความผาสุกอย่างมากของสามีหรือภริยา 

อนึ่ง การแยกกันอยู่นี้ไม่ถือว่าเป็นการจงใจละทิ้งร้างกัน แต่หากแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเกิน 3 ปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ ตามมาตรา 1516 (4/2) 

ตัวอย่างคดี 
ชอบดุดา ชอบเสพสุรา ทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ทุบตี เอาน้ำสาดหน้า 
สามีเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรง อยู่ร่วมกันอาจได้รับเชื้อ 
เป็นโรคโลหิตจาง อนุญาตอยู่ต่างหากจนกว่าจะรักษาหายดี 
วิกลจริต ดุร้าย ก่อให้เกิดความหวาดกลัวแก่ภริยาและบุตร 
ตัณหาจัดผิดปกติธรรมดา ข่มขืนกระทำชำเรา 
แกล้งฟ้องคดีอาญาความผิดเล็กน้อย 
ฆ่าสัตว์เลี้ยงที่อีกฝ่ายรัก 
ประเด็น สถานที่แยกกันอยู่ 
ตามปกติฝ่ายที่ถูกกระทำ ต้องเป็นฝ่ายอกจากบ้านไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง แต่บางกรณีฝ่ายที่ถูกกระทำอาจขอให้ศาลมีคำสั่งให้ตนอยู่ในบ้านได้ โดยให้อีกฝ่ายที่กระทำความผิดออกไปพักอาศัยที่อื่น หรือจำกัดบริเวณบ้าน เช่น ให้อยู่เฉพาะชั้นล่างเท่านั้น 

ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฏีกา ที่น่าสนใจ 

คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 369/2509  
จำเลยชอบดุด่า ชอบเสพสุรา เคยฟันโจทก์ 2 ครั้งที่แขนซ้ายและมือซ้ายเคยเอากาแฟร้อนสาดหน้าและต่อยโจทก์และโจทก์ก็เคยฟันจำเลยถึงกระดูกนิ้วขาดแม้จะนับได้ว่าเป็นเรื่องรุนแรงอยู่มาก แต่ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวจากการที่ได้เป็นสามีภริยากันมารวม 2 ระยะ เป็นเวลาประมาณ 7-8 ปีแล้ว ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า  ถือว่าไม่มีลักษณะจะเป็นเหตุที่โจทก์จะขอให้ตนแยกอยู่ต่างหากจากจำเลยดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1462  

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้อง 

มาตรา 1462 ในกรณีที่สามีภริยาไม่สามารถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุขได้ หรือถ้าการอยู่ร่วมกันจะเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจหรือทำลายความผาสุกอย่างมาก สามีหรือภริยาฝ่ายที่ไม่สามารถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุขได้ หรือฝ่ายที่จะต้องรับอันตรายหรือถูกทำลายความผาสุก อาจร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งอนุญาตให้ตนอยู่ต่างหากในระหว่างที่เหตุนั้นๆ ยังมีอยู่ก็ได้ในกรณีเช่นนี้ ศาลจะกำหนดจำนวนค่าอุปการะเลี้ยงดูให้ฝ่ายหนึ่งจ่ายให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งตามควรแก่พฤติการณ์ก็ได้ 

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้ 
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน 3 ปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้  

ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ 
หากมีข้อตกลงระหว่างสามีภริยา ว่าจะแยกกันอยู่ แม้เป็นเพียงวาจาก็สามารถบังคับได้ 

 
Tag: ทนายเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, ทนายประชาชน,  สำนักงานทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่เก่งๆ, ปรึกษาทนายเชียงใหม่,  ทนายอาสาเชียงใหม่, สภาทนายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่มืออาชีพ, ทนายความเชียงใหม่ช่วยเหลือ SME และ START UP, ทนายเชียงใหม่ความมุ่งมั่น, ทนายความเชียงใหม่คลายทุกข์, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่มุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่คลายทุกข์

#สำนักงานทนายเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่เก่งๆ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่ #ทนายอาสาเชียงใหม่ #สภาทนายเชียงใหม่ #ทนายความเชียงใหม่


ปรึกษาฟรี!! มุ่งมั่นช่วยเหลือแก่ทุกท่าน แบบมิตรภาพ โดยทีมทนายความวิถีพุทธ

ดร.เกียรติศักดิ์ เนติบัณฑิตย์ไทย ทนายวิถีพุทธ และทีมทนายความเชียงใหม่ ติดต่อโทร 081-951-1100

 
เว็บสำเร็จรูป
×