

การขายทรัพย์สินของผู้เยาว์
ทรัพย์สินของผู้เยาว์ หากยังไม่บรรลุนิติภาวะ คือ อายุ 20 ปีบริบูรณ์ หรือจดทะเบียนสมรสเมื่ออายุครบ 17 ปี ผู้เยาว์จะทำนิติกรรมย่อมต้องได้รับความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้ใช้อำนาจปกครองเสียก่อน หรือให้ผู้แทนโดยชอบธรรมจัดการแทนให้ เว้นแต่ "พินัยกรรม" ผู้เยาว์ทำได้เมื่ออายุ 15 ปี บริบูรณ์
ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า มีนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ 13 ประการ ผู้ใช้อำนาจปกครองจะกระทำมิได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาตเสียก่อน เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินของกิจการบางอย่างที่สำคัญของผู้เยาว์ ระบุตามมาตรา 1574 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้อง
มาตรา 1574 บัญญัติไว้ดังนี้ นิติกรรมใดอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์ดังต่อไปนี้ ผู้ใช้อำนาจปกครองจะกระทำมิได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต (1) ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก ให้เช่าซื้อ จำนอง ปลดจำนอง หรือ โอนสิทธิจำนอง ซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจำนองได้ (2) กระทำให้สุดสิ้นลงทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งทรัพยสิทธิของผู้เยาว์ อันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (3) ก่อตั้งภาระจำยอม สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน ภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพยสิทธิอื่นใดในอสังหาริมทรัพย์ (4) จำหน่ายไปทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งสิทธิเรียกร้องที่จะให้ได้มา ซึ่งทรัพยสิทธิในอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจำนองได้ หรือสิทธิเรียกร้องที่จะให้ทรัพย์สินเช่นว่านั้นของผู้เยาว์ปลอดจาก ทรัพยสิทธิที่มีอยู่เหนือทรัพย์สินนั้น (5) ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เกินสามปี (6) ก่อข้อผูกพันใด ๆ ที่มุ่งให้เกิดผลตาม (1) (2) หรือ (3) (7) ให้กู้ยืมเงิน (8) ให้โดยเสน่หา เว้นแต่จะเอาเงินได้ของผู้เยาว์ให้แทนผู้เยาว์เพื่อ การกุศลสาธารณะ เพื่อการสังคม หรือตามหน้าที่ธรรมจรรยา ทั้งนี้ พอสมควรแก่ฐานานุรูปของผู้เยาว์ (9) รับการให้โดยเสน่หาที่มีเงื่อนไขหรือค่าภาระติดพัน หรือไม่ รับการให้โดยเสน่หา (10) ประกันโดยประการใด ๆ อันอาจมีผลให้ผู้เยาว์ต้องถูกบังคับ ชำระหนี้ หรือทำนิติกรรมอื่นที่มีผลให้ผู้เยาว์ต้องรับเป็นผู้รับชำระหนี้ ของบุคคลอื่นหรือแทนบุคคลอื่น (11) นำทรัพย์สินไปแสวงหาผลประโยชน์นอกจากในกรณีที่ บัญญัติไว้ใน มาตรา 1598/4 (1) (2) หรือ (3) (12) ประนีประนอมยอมความ (13) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย
มาตรา 1575 ถ้าในกิจการใด ประโยชน์ของผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือประโยชน์ของคู่สมรสหรือบุตรของผู้ใช้อำนาจปกครองขัดกับประโยชน์ของผู้เยาว์ ผู้ใช้อำนาจปกครองต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนจึงทำกิจการนั้นได้ มิฉะนั้นเป็นโมฆะ
ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฏีกา ที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 150/2507 ผู้ใช้อำนาจปกครองจะทำสัญญาจะซื้อขายหรือสัญญาอื่นซึ่งผูกมัดให้จำต้องขายที่ดินของผู้เยาว์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลไม่ได้
คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 4860/2548 โจทก์และจำเลยทั้งสิบสองซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาท 2 แปลง ได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาททั้งสองแปลง โดยให้โจทก์ได้ที่ดินแปลงละ 1 ไร่ และระบุตำแหน่งที่ดินส่วนของโจทก์ไว้ด้วย อันมีลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1574 (12) ในขณะที่จำเลยที่ 12 เป็นผู้เยาว์โดยไม่ปรากฏว่าได้รับอนุญาตจากศาล ข้อตกลงในเรื่องการแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินดังกล่าวจึงไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ 12 เท่ากับว่า กรรมสิทธิ์รวมของจำเลยที่ 12 ยังคงครอบไปเหนือที่ดินพิพาททั้งหมดตามส่วนของตนจนกว่าจะมีการแบ่งแยก ซึ่งมีผลไม่เพียงแต่เฉพาะในเรื่องการกำหนดตำแหน่งของที่ดินเท่านั้น แต่ยังมีผลรวมตลอดไปถึงจำนวนเนื้อที่ดินด้วย เพราะหากแบ่งที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์แปลงละ 1 ไร่ ตามข้อตกลงแล้ว ที่ดินพิพาทในส่วนที่เหลือย่อมจะมีจำนวนลดน้อยลง และไม่อาจนำมาแบ่งให้แก่จำเลยทั้งสิบสองได้ในจำนวนเท่า ๆ กันโดยไม่กระทบถึงสิทธิในจำนวนเนื้อที่ดินที่จำเลยที่ 12 จะพึงได้รับ เมื่อข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ 12 และมีผลกระทบถึงจำนวนเนื้อที่ดินตลอดจนตำแหน่งของที่ดินที่จะแบ่งแยกเช่นนี้แล้ว ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ย่อมเป็นสิ่งที่เกี่ยวพันไม่อาจแบ่งแยกออกได้จากนิติกรรม ซึ่งจำเลยที่ 1 ถึงที่ 11 ได้ร่วมกระทำ ข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินจึงไม่มีผลผูกพันจำเลยที่ 1 ถึงที่ 11 ด้วย โจทก์ไม่อาจบังคับให้จำเลยทั้งสิบสองแบ่งที่ดินพิพาทให้แก่ตนตามข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 2170/2516 บิดาทำสัญญาต่างตอบแทนให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของบุตรผู้เยาว์ตลอดชีวิตผู้เช่าโดยมิได้รับอนุญาตจากศาล เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546 ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า การให้เช่ามีผลผูกพันบุตรผู้เยาว์เพียง 3 ปี
ข้อสังเกตุ แม้จะเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าการเช่าธรรมดา ก็ไม่ผูกพันผู้เยาว์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5225/2533 การโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เมื่อผู้ขายสละเจตนาครอบครองให้ผู้ซื้อ ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า ผู้ซื้อก็ได้สิทธิครอบครองทันทีโดยไม่ต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ บิดาทำสัญญาขายที่ดินของบุตรผู้เยาว์โดยฝ่าฝืน ป.พ.พ.มาตรา 1574(1) สัญญาซื้อขายไม่มีผลผูกพันที่ดินของบุตร
คำพิพากษาศาลฏีกาที่ 326/2524 สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ทำละเมิดเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง การทำสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจึงเป็นนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของเด็กผู้ใช้อำนาจปกครองจะทำสัญญาแทนเด็กจะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546(4)(เดิม) เมื่อบิดาโจทก์ทำสัญญาแทนโจทก์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาล ทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ ขอเรียนว่า สัญญาก็ไม่มีผลผูกพันโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคแรก บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ถ้าไม่มีผู้ใดฟ้องคดีอาญา สิทธิของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีแพ่งเนื่องจากความผิดนั้นย่อมระงับไปตามกำหนดเวลาที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา จึงต้องนำอายุความฟ้องคดีอาญามาใช้บังคับ หากการกระทำของจำเลยเป็นความผิดก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี อายุความจึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95(3) คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง 1 สูติบัตร 2 ใบสำคัญการสมรส 3 ทะเบียนบ้าน 4 บัตรประจำตัวประชาชน 5 มรณบัตร 6 โฉนดที่ดิน พร้อมหนังสือรับรองราคาประเมิน 7 หนังสือรับรองเงินเดือน 8 เอกสารการเป็นหนี้สิน เช่น สัญญากู้ยืมเงิน ค่างวดเช่าซื้อรถยนต์ เป็นต้น 9 หนังสือรับรองสถานศึกษา บัตรประจำตัวนักเรียน 10 หนังสือให้ความยินยอมของผู้เยาว์ 11 สัญญาจะซื้อจะขายทรัพย์สิน(ถ้ามี)
ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทีมทนายเชียงใหม่ และสำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ 1 เมื่อศาลได้ไต่สวนแล้วเห็นเป็นการสมควรก็จะสั่งอนุญาตแล้ว ผูัแทนโดยชอบธรรมจึงอาศัยคำสั่งอนุญาตของศาลไปทำนิติกรรมได้ 2 ผู้ร้องต้องไปให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความเห็นต่อศาล ภายใน 15 วันนับแต่วันยื่นคำร้อง 3 การขอจัดการทรัพย์แทนผู้เยาว์นั้น ต้องเป็นประโยชน์ต่อผู้เยาว์มากที่สุด 4 หากไม่จำเป็นจริงๆ ศาลมักมีความเห็นไม่อนุญาต เช่น นำไปเป็นค่าการศึกษาเล่าเรียนของบุตรผู้เยาว์ เป็นต้น 5 การเบิกจ่ายหรือเก็บรักษาเงิน ศาลอาจมีคำสั่งให้สถานพินิจฯจัดการควบคุมดูแล ตรวจสอบได้ แล้วให้ผู้ร้องมาเบิกจากเจ้าหน้าที่ตามความจำเป็น ก็ได้ 6 เว้นแต่ ผู้ร้องจะแสดงให้ศาลเห็นว่าการขอเบิกเงินจากสถานพินิจฯไม่สะดวก ศาลก็อาจไม่มีคำสั่งให้สถานพินิจฯเป็นผู้เก็บรักษาเงินก็ได้ 7 ต้องให้ผู้เยาว์เบิกความต่อศาลเพื่อยืนยันว่ายินยอมด้วย 8 ให้ผู้จะซื้อที่ดินเบิกความยืนยันว่าซื้อขายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด 9 เขตอำนาจศาลคือศาลที่ที่ดินตั้งอยู่ 10 สามารถขอขายที่ดินทั้งแปลงหรือบางส่วนก็ได้ กรณีขายบางส่วนต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินออกไปรังวัดทำแผนที่พิพาทแสดงส่วนที่ดินที่จะขาย และแสดงส่วนที่ดินที่ยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เยาว์
Tag: ทนายเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, ทนายประชาชน, สำนักงานทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่, สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่, ทนายเชียงใหม่เก่งๆ, ปรึกษาทนายเชียงใหม่, ทนายอาสาเชียงใหม่, สภาทนายเชียงใหม่, ทนายความเชียงใหม่มืออาชีพ, ทนายความเชียงใหม่ช่วยเหลือ SME และ START UP, ทนายเชียงใหม่ความมุ่งมั่น, ทนายความเชียงใหม่คลายทุกข์, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่มุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชน, สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่คลายทุกข์
#สำนักงานทนายเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายในจังหวัดเชียงใหม่ #สำนักงานกฎหมายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่เก่งๆ #ปรึกษาทนายเชียงใหม่ #ทนายเชียงใหม่ #ทนายอาสาเชียงใหม่ #สภาทนายเชียงใหม่ #ทนายความเชียงใหม่ Share on Facebook
|